จอมยอมรับว่าไม่มี….
อย่าว่าแต่พูดคุยเลย จำหน้ามันยังได้ด้วย😂
.
คือเรื่องของเรื่องคือ เพื่อนของผมคนสวิส เค้ายังเจอกันกับเพื่อนๆของเค้าที่เรียนอนุบาลมาด้วยกัน
พวกเค้าอาจจะเคยจีบกันถึงแม้นว่าจะยังไม่รู้จักว่ารักคืออะไร อาจจะเคยเล่นอยู่กลุ่มเดียวกันตอนเด็กๆ
…มันจะรู้สึกยังไงเน่าะถ้าเรามีเพื่อน4-5คนที่เคยเล่นดินด้วยกันมา
จนมาถึงวันนี้เรามานั่งคุยกันเรื่องชีวิต เรื่องงาน เรื่องลูก
.
จอมมานั่งคิดดูว่าทำไมผมถึงไม่มีแบบนี้บ้าง…คุณนี้มันเป็นเรื่องลึกซึ่งที่เราไม่เคยมานั่งพูดกันเลย
– ผมว่าเรื่องของการวางแผนการศึกษาของรัฐเป็นจุดหลักของเรื่องนี้เลย
ว่าไม่ได้น่ะ ที่ไทยเราใครที่มีฐานะหน่อยเค้าก็จะส่งลูกส่งหลานไปเรียนโรงเรียนที่แพงเพราะ
คิดว่ามันจะดีกว่าโรงเรียนของรัฐซึ่งโดยภาพรวมจอมว่าเค้าเอาใจใส่มากกว่าโรงเรียนของรัฐจริงๆ
.
เลยทำให้เด็กที่เคยเล่นดินข้างบ้านด้วยเริ่มห่าง แล้วก็หายกันออกไปเพราะ
ใครที่เรียนโรงเรียนดีกว่าเค้าจะมีความเชิดนิดนึง ส่วนใครที่เรียนโรงเรียนวัดก็ไม่กล้าเข้าไปเทียบ
แต่ที่สวิส โรงเรียนทุกที่ของเค้าดีหมดเลย ซึ่งส่งผลให้พ่อแม่ของเด็กไม่คิดที่จะขวนขวายหา
โรงเรียนอื่นให้ลูก ซึ่งทำให้เด็กที่บ้านอยู่ใกล้กันก็จะได้เรียนโรงเรียนเดียวกันไปจนกว่าจะต้องแยกกันไปเรียนต่อสายอาชีพ
หรือมหาวิทยาลัย ความผูกพันของความเป็นเพื่อนก็เลยแน่นแฟ้นมาก
.
– พื้นที่ตัวเมื่องของสวิสมันมีความใหญ่ไม่เท่าเมืองต่างๆของไทย พวกเด็กๆเหล่านั้นก็ได้เจอกันอีกหลังจากเรียนจบแล้ว
ซึ่งมันง่ายต่อการ keep in touch มากๆ เพราะที่ประเทศไทยพอทุกคนเรียนจบไปก็อาจจะย้ายไปอยู่อีกภาค
อีกจังหวัดไปเลย ความสนิทมันเลยเริ่มห่างกัน
.
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้จอมก็แค่มีความรู้สึกว่าถ้าเรามีเพื่อนดีๆสักคนในชีวิตก็เป็นบุญแล้ว ยิ่งถ้าได้รู้จักกันตั้งแต่แก้ผ้าเล่นดิน
เล่นปืนก้านกล้วยกัน จนถึงตอนนี่ผมถือว่าที่สุดแล้วจริงๆ😊